ไม่น่าเลย เวนเกอร์เผยสิ่งที่เสียดายสุดตอนคุมอาร์เซน่อล

ไม่น่าเลย อาร์แซน เวนเกอร์ เจาะจง สิ่งที่ทำให้ตนเสียดายสูงที่สุดในตอนที่ยังคุม อาร์เซน่อล

ไม่น่าเลย เป็นการจะต้องทนมองเห็น นิโกล่าส์ อเนลก้า กล่าวลากลุ่ม โดยมั่นใจว่าถ้าหากเขายังอยู่กับกลุ่มต่อแล้วนั้น อเนลก้า ก็สามารถเป็นนักฟุตบอลที่พิเศษได้เลย

อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือของ อาร์เซน่อล ยอดสมาพันธ์ที่เวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พูดว่าสิ่งที่ทำให้ตนรู้สึกเสียดายสูงที่สุดขณะที่ยังคุม “ไอ้ปืนใหญ่” เป็นการที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ตกลงใจย้ายออกจากกลุ่ม https://www.chiquesrockoutfitters.com

เมื่อตอนกุมภาพันธ์ ปี 1997 อาร์เซน่อล คว้าตัว อเนลก้า มาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตอบแทน 500,000 ปอนด์ (ราวๆ 22 ล้านบาท)

โดยที่เวลานี้ อเนลก้า ยังเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งที่มิได้โด่งดังดังอะไร ก่อนที่จะในช่วงฤดูกาล 1998-99 เขาจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการยิงไป 17 ประตูจากการลงเล่นในลีก 35 นัดหมาย

แม้กระนั้น ต่อจากนั้นเขาตกลงใจย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าจ้าง 22.3 ล้านปอนด์ (ราวๆ 981.2 ล้านบาท) และก็ผลงานของเขากับตรงนั้นก็ไม่เด่นซักเท่าไหร่

เวนเกอร์ กล่าวระหว่างไปออกงานการกุศลงานหนึ่งว่า “สิ่งที่ผมเสียดายเยอะที่สุดรวมทั้งทำให้รู้สึกเสียใจสูงที่สุดก็คือการที่ อเนลก้า ย้ายออกไป ที่แท้เขาสามารถเป็นนักฟุตบอลที่พิเศษได้แท้ๆแต่ว่าท้ายที่สุดเปลี่ยนเป็นว่าเขาพเนจรเล่นให้กับถึง 13 กลุ่ม”

ในตอนทศวรรษ 1990 มาจนกระทั่งตอนต้นๆของทศวรรษ 2000 นั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ อาร์แซน เวนเกอร์ นับว่าเป็นที่ปรึกษาคู่แข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านสูงที่สุด

เป็นชั้น 1 ของแวดวงบอลอังกฤษก็ว่าได้ จากการที่ในช่วงเวลานั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ของพวกเขาเป็น 2 กลุ่มที่ลุ้นแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันโดยตรง

การผิดใจระหว่างทั้งสองส่งผลให้เกิดวาทะบาปที่เด็ดๆบ่อยครั้ง ซึ่งในขณะนั้นผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็ถึงขนาดเคยมีความรู้สึกว่าทั้งสองจะไม่มีทางคืนดีกันได้แน่ๆ

ถึงแม้ว่าจะจะมีใครกันแน่ผู้ใดผู้หนึ่งตกลงใจวางมือจากการควบคุมกลุ่มไปรวมทั้งตาม แต่กระนั้น มันเปลี่ยนไปเป็นว่าทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันภายหลังจากผ่านไปพักหนึ่ง และก็ก่อนหน้านี้ก็ถึงขนาดมีการบอกดูกันด้วย

แน่ๆว่าลึกๆแล้วนั้นทั้งสองต่างก็ให้ความเคารพนับถือกันและกันในระดับหนึ่งตั้งแต่เวลาที่พวกเขาดวลกันแล้ว แม้กระนั้นการจะก่อให้กำเนิดอะไรขึ้นมาได้มันก็ควรจะมีสิ่งที่เรียกว่า “จุดเริ่ม” แล้วก็อะไรที่น่าจะเป็นเส้นสตาร์ตของการสมานฉันท์ระหว่าง 2 ตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอลของ พรีเมียร์ลีก ? รีวิวเจ็ทสกี

บางบุคคลคิดว่าการที่สโมสรผู้จัดการทีมในอังกฤษ (แอลเอ็มเอ) เคยนัดให้ทั้งยัง 2 คนมาเจอะกันเมื่อปี 2008 เป็นสาเหตุของความพร้อมเพรียงระหว่างทั้งสอง

แม้กระนั้นจริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะว่าหลังจากนั้นมาทั้งสองยังเกือบจะมิได้กินไวน์ข้างหลังจบเกมการประลองด้วยกันเลย ทั้งๆที่มันเป็นธรรมเนียมที่วงการบอลอังกฤษชอบทำกันเสมอๆ ความรู้สึกเดียวกัน

ดิ๊ค ลอว์ อดีตเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเสริมกองทัพของ อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นเลิศในผู้ที่สนิทกับ เวนเกอร์ อย่างยิ่งด้วยนั้น ได้ให้คำตอบที่น่าจะเป็นจุดกำเนิดของความเป็นเพื่อนแท้ระหว่างทั้งสอง

โดยเขากล่าวว่ามันเกิดขึ้นช่วงวันที่ 28 ม.ย. ปี 2013 หรือก็คือตรงกับเกมลีกนัดหมายที่ อาร์เซน่อล เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

เกมดังกล่าวไม่มีความหมายกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว เนื่องจากว่าพวกเขารับรองแชมป์ลีกไปได้เป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ในทางกลับกัน อาร์เซน่อล

จะต้องสำเร็จการประลองที่ดีเพื่อจะได้ติดอยู่ใน 4 ขั้นตอนแรกของตารางคะแนนได้ ก่อนที่จะในที่สุดเกมจะจบลงที่การเท่ากัน 1-1

ภายหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวแล้วนั้น เวนเกอร์ กับสตาฟฟ์ของ อาร์เซน่อล ก็เข้าไปที่ห้องทำงานของ เวนกอร์ ข้างใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ดังที่ทำกันอยู่เป็นประจำมันเป็นห้องที่เรียบง่ายจากการมีโซฟาตั้งอยู่ 2 ข้าง โดยที่มีโต๊ะตั้งกั้นเอาไว้ตรงกลาง

ลอว์ เปิดเผยว่า “การที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โผล่มาที่สำนักงานของผู้จัดการทีมมันเกิดเรื่องที่พิเศษมากๆผมบอกได้เลยว่าตลอดตอนหลายปีที่ผ่านมาหน้านั้นน่ะมันมีเพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่ เซอร์ อเล็ซ์

จะเดินจากห้องแต่งตัวของกลุ่มเยี่ยมมายังห้องทำงานของผู้จัดการทีมฟุตบอล มันน้อยจนกระทั่งผมสามารถนับด้วยมือฝ่ายเดียวโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ครบ 5 นิ้วได้ด้วยไป”

“ความเป็นคู่อริกันระหว่างทั้งสองมันถึงใจถึงอารมณ์มากมายๆจนกระทั่งขั้นที่ไม่มีผู้ใดผ่อนปรนให้กัน มีหลายทีที่ความขมขื่นจากผลที่เกิดจากการแข่งขันที่ไม่เป็นใจมันกระตุ้นให้เกิดเรื่องที่บานปลาย พูดง่ายๆก็คือก่อนจะถึงวันนั้นน่ะทั้งคู่เกลียดกันมากมายๆ”

“วันนั้น เซอร์ อเล็กซ์ ทักกับสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนของ อาร์เซน่อล ด้วยดี แล้วก็ก่อนที่จะผมจะรู้ตัวน่ะเขากับ อาร์แซน ก็ไปนั่งคุยกันแล้ว ทุกคนตกลงใจอยู่ห่างจากทั้งสอง

มันเป็นช่วงๆในขณะที่พิเศษมากมายๆคู่กรณีที่ดวลกันมาอย่างช้านานแม้กระนั้นในช่วงเวลานั้นมานั่งด้วยกันแล้วก็คุยกันอย่างสบายๆ

สิ่งที่พวกเรา มองเห็นใน ที่ทำงานของกุนซือ ในวันนั้น มันไม่มีบรรยากาศ ของความวุ่นวายข้างหลังจบเกมแบบที่ เคยเกิดขึ้นเลย มันเสมือนเป็น การกล่าวลา กันมากยิ่งกว่า”

ใช่ มันเป็นการกล่าวลากันจริงๆเพราะว่าในอีก 10 คราวหลังแล้วต่อจากนั้น หรือวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปี 2013 เฟอร์กูสัน ก็ประกาศวางมือ จากการเป็น ผู้จัดการทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด

จนกระทั่งเป็นการจบการดวลกึ๋นในสนามของ 2 ผู้จัดการทีมฟุตบอล ระดับพระรอยแดงของ พรีเมียร์ลีก ไปในตัว แต่ว่าความ เป็นมิตรแท้ ระหว่างทั้งสอง คงจะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อช่วงปลายม.ย.แล้